San25Call - Top Up Online

-- **** ขณะนี้หน้าเว็บนี้ ไม่ได้ให้บริการของ Rin Call และ โทรถูก.com แล้วครับ ****


วันอังคารที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2553

โรคติด Social network

-
ร้อยทั้งร้อยสาวๆ ที่ได้อ่านคอลัมน์นี้ คอนเฟิร์มได้ว่าต้องเป็นสมาชิกของ Social network อย่างน้อย 1 ที่ไม่ว่าจะเป็น Facebook (ยอดฮิต) Twitter (ฮิตเช่นกัน) Myspace (มาแรง) หรือเพื่อนเก่าเพื่อนแก่อย่าง Hi5 ที่ก็ยังมีคนเล่นอยู่ไม่น้อย สื่อเหล่านี้เป็น New Media ที่เรียกกันว่า Social Media นั่นเอง

Social Media ที่ขยายวงกว้างจนกลายเป็น Social Network นั้นนอกจากจะทำให้เราได้รับรู้ความเป็นไปของชาวบ้าน เอ๊ย!... เพื่อนๆ แล้ว บางครั้งก็ทำให้ได้เจอะเจอเพื่อนเก่าสมัยก่อนที่ไม่คิดว่าจะได้เจอกันอีก บางคนได้รู้จักเพื่อนของเพื่อน ได้ใกล้ชิดกันมากขึ้นแม้จะอยู่ห่างกันคนละซีกโลก หรือแม้แต่ได้กิ๊ก ได้แฟน ได้ว่าที่สามีจาก Social Network กันเลยทีเดียว

อ้าว… แล้วดีเลิศซะแทบหาข้อเสียไม่เจอแบบนี้มันก็น่าติดน่ะสิ เพราะโดยธรรมชาติมนุษย์ซึ่งเป็นสัตว์สังคมนั้นชอบที่จะรู้ความเป็นไปของผู้อื่น (เรื่องของชาวบ้าน) อยู่แล้ว ติดธรรมดาน่ะไม่เท่าไหร่ แต่บางคนติดกันจนไม่เป็นอันทำงานทำการ ยิ่งเดี๋ยวนี้สามารถโพสผ่านมือถือ เพราะมีระบบ On mobile ทำให้เมื่อไหร่ว่างเป็นต้องโพสต์ทุกเหตุการณ์ในชีวิต ไม่ว่าจะเป็น กินข้าวไม่อร่อย, พนักงานเซเว่นไม่ยิ้มให้, โดนประตูรถไฟฟ้าหนีบก้น ฯลฯ เรียกว่ารู้กันทุกลมหายใจกันเลยทีเดียว

ว่ากันเรื่องติด Social Media ไม่ใช่เป็นกันเฉพาะคนไทยนะจ๊ะ อาการนี้ฮิตกันไปทั่วโลก จนFlowtown เว็บไซต์ที่ให้บริการส่งข้อความถึงผู้ใช้ Social Media ได้นำข้อมูลการใช้ Social Network ผ่านโทรศัพท์มือถือมาให้เราได้วิเคราะห์ว่าเราได้เห็นว่า ผู้บริโภคอย่างเราๆ นั้นเข้าขั้นติด Social Media ขนาดไหน เอ้า ลองมาดูกัน

48% ของผู้ตอบแบบสอบถาม เช็ค Twitter ก่อนเข้านอน
61% ของกลุ่มคนอายุต่ำกว่า 25 และ 55% ของกลุ่มคนอายุที่มากกว่า 25 จะต้องเช้า Facebook อย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง
26% ของผู้ใช้ iPhone จะต้องเข้า Twitter ก่อนเปิด TV
49% ของกลุ่มคนอายุต่ำกว่า 25 จะเช็คและรับ E-Message ระหว่างมื้ออาหาร

สาวๆ ล่ะคะมีพฤติกรรมที่กล่าวมาบ้างหรือเปล่า ถ้ามี..คุณติด Social Network แล้วล่ะค่ะ

ติด…แล้วไง

แม้จะขึ้นหัวมาเหมือนไม่แคร์สื่อ แต่จะเขียนถึงภาวะแคร์สื่ออย่างแรงของคนที่ติด Social Network กันอย่างโงหัวไม่ขึ้น ว่าติดแล้วจะมีข้อเสียอย่างไร เรามาดูกันดีกว่า

• เสียเพื่อน เอ้า… ไหนว่าได้เพื่อนเพิ่มขึ้น แล้วจะเสียเพื่อนตรงไหน… ก็เสียเพื่อนที่อยู่ในชีวิตจริงไงคะ บางคนทวิตกันไม่หยุดหย่อน เพื่อนๆ มากินข้าวด้วยก็ไม่สนใจ เค้าเมาท์กันยัยนี่นั่งกดแต่ BB เค้าคุยกันยัยนี่เอาแต่เข้าไป comment เพื่อนไม่หยุดหย่อน จนเพื่อนอยากจะโยน BB ของเธอทิ้ง แล้วบอกว่าช่วยสนใจคนในชีวิตจริงหน่อยได้ไหม???

• เสียบุคลิก แหม…อันนี้ก็เห็นๆ คนอะไร เอาแต่ก้มหน้าก้มตา เอาแต่ Comment มั่ง ทำ Quiz มั่ง เล่นเกม เก็บผัก สร้างเมือง บริหารร้านขนม ฯลฯ การจ้องอยู่หน้าคอมหรือมือถือนานๆ นอกจากจะทำให้สายตาเสียแล้ว ส่วนใหญ่นั่งห่อไหล่กันทั้งนั้น ส่งผลให้เวลายืนก็ทำให้หลังค่อมอีก แถมยังเดินก้มหน้าก้มตา ไม่สนใจใคร แบบนี้มันจะไม่ให้เสียบุคลิกภาพได้ไงล่ะคะ

• เสียเวลา เสียงานเสียการ ตอนนี้หลายๆ ออฟฟิศเริ่ม Block เวปไซต์ที่เป็น Social Network บ้างแล้ว เพราะพนักงานเอาแต่ทวิตเรื่องเรื่อยเปื่อย ไม่ว่าจะบ่นงาน นินทาเจ้านาย รึไม่ก็โพสต์รูปแอ๊บๆ ของตัวเอง ทำให้เสียเวลางานกันไปตามๆ กัน

• เสียเงิน อันนี้หลายคนซึ้งใจเมื่อสิ้นเดือน ทั้งค่าใช้บริการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านช่องทางต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น EDGE / GPRS /3G / Wi-Fi ก็ไม่ได้ถูกๆ หรือให้ใช้ฟรีเหมือนเมืองนอกเมืองนาเค้านะคะ นี่ยังไม่ได้รวมค่าโทร ค่าโน่นนี่นั่น โอยยย รวมๆ กัน ค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ทำเอาสิ้นเดือนเป็นสิ้นใจได้เลยค่ะ

• เสียใจ อย่างที่บอกว่า Social Network ทำให้เราได้รู้จักคนเยอะขึ้น แล้วการได้รู้จักมากนี่เอง มันก็ทำให้มีตัวเลือกเยอะขึ้น อย่างที่เคยได้ยินว่ารักแท้แพ้ข้ามคืน…เอ๊ยใกล้ชิด ยุคนี้ใครใกล้ชิดกว่าก็ได้เปรียบ จึงเกิดภาวะ “กิ๊กออนไลน์” กันซะอย่างนั้น บางครั้งดูเหมือนไม่จริงจัง แต่ใครจะไปรู้เรื่องแบบนี้ อะไรก็เกิดขึ้นได้ เรื่องราวที่ต้องเสียคนรักไปเพราะ Social Network น่ะ ฟังดูอาจจะเกินจริง แต่ไม่มีเรื่องไหนเป็นไปไม่ได้นะจ๊ะ


ใช้ Social Network อย่างมีสติกันดีกว่า

ไหนๆ ก็ยังเลิกไม่ได้ (ก็แหม ของมันยังมีกระแสนี่นะ) เราก็มาหาวิธีการใช้อย่างมีสติกันดีกว่าค่ะ

• กำหนด limit ของตัวเอง
ให้รู้ว่าใช้แค่ไหนกำลังดี อาจจะฟังดูยากในตอนแรก แต่เมื่อเวลาผ่านไปคุณจะเริ่มรู้ว่าลิมิทของคุณอยู่ตรงไหน เริ่มจากง่ายๆ เวลาเข้าไปให้อ่านเฉพาะหน้าแรก ไม่ต้องดูโพสก่อนหน้า หรือดูเฉพาะเท่าที่มีแจ้งเตือนมาว่าเป็นชื่อของเรา เท่านี้ก็จำกัดเรื่องราวที่จะเข้าสู่เราได้ส่วนหนึ่งล่ะ

• กำหนด limit ของโปรแกรม
ไม่ยากเลย คุณแค่เข้าไปตั้งค่าว่า “เฉพาะเพื่อน” หรือ “เพื่อนของเพื่อน” เท่านี้สถานะคุณก็จะหดน้อยลงมาได้ ไม่ต้องอ่านเรื่องของใครก็ไม่รู้ เพราะมันไม่ได้มีประโยชน์อะไรกับชีวิตเราอยู่แล้ว หรือรับแอดเพื่อนเฉพาะคนที่มีเพื่อนเหมือนกัน (Common friend) เท่านั้น

• ติดหนักใช้ไม้อ่อน ติดน้อยใช้ไม้แข็ง
สำหรับใครที่รู้สึกว่า Social Network เริ่มทำให้คุณทุกข์มากกว่าสุข ลองใช้โปรแกรมเหล่านี้ช่วยดูเพราะในเมืองนอก โรคติด Social Network นั้นระบาดรุนแรงมาก ก็เลยมีคนคิดโปรแกรมต่างๆ นานาออกมาเพื่อช่วยให้คุณลด ละ เลิก Social Network ลงได้ ไม่ว่าจะเป็น K9 Web Protection ที่ช่วยให้คนที่อยากจะ “ลด ละ” โดยกำหนดเวลาใช้ Social Network ให้สั้นลงตั้งแต่ 5-30 นาที ซึ่งพอจะช่วยกำกับตัวเองได้บ้าง

หรือจะใช้ไม้แข็งเพื่อให้เลิกได้อย่างโปรแกรม Web 2.0 Suicide Machine ที่ชื่อฟังดูน่ากลั๊วน่ากลัว แต่ได้ผลชัวร์ถ้าอยาก “เลิก” เพราะมันจะไป “ฆ่า” ข้อมูลทั้งหมดใน Social Network ที่คุณมี แบบว่าให้จบให้สิ้นกันไปเลย ทิ้งไว้เพียงข้อความสั่งลาสั้นๆ ตามสโลแกนของโปรแกรมนี้ที่ว่า “กลับไปพบปะเพื่อนบ้านตัวเป็นๆ ของคุณอีกครั้ง (Meet your real neighbors again!) แหม่… เก๋ซะไม่มี

Social Network ก็เหมือนกับสรรพสิ่งบนโลกที่ต้องมีทั้งข้อดีและข้อเสีย และมีวัฎจักรเป็นของตน ที่หนีไม่พ้นช่วงรุ่งเรืองและเสื่อมสลาย เพราะอย่างไรมันก็เป็นเพียงแค่โปรแกรมที่สร้างมาเพื่อเชื่อมโยงผู้คนเข้าด้วยกัน คนใช้ต่างหากล่ะที่จะใช้มันไปทางไหน และหากว่าคุณใช้ Social Network อย่างมีสติ รับรองได้ว่าคุณไม่มีทางติดมันจนเสียหายหลายสิ่งได้อย่างแน่นอนค่ะ

ที่มา: chicministry.com



------------LG GM650S ดูทีวีได้


สมัครสมาชิกฟรี
1loveshopping
สินค้า 1,980 รายการ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น